5 เหตุผล ที่อาจทำให้การเลิกบุหรี่ยากขึ้นสำหรับ “ผู้หญิง”

ใครที่สูบบุหรี่เป็นประจำ (หรืออาจจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ก็ตาม) คงทราบกันดีอยู่แล้วถึง “อันตรายของบุหรี่” โดยเฉพาะบุหรี่แบบมวน ถ้าถามแบบกว้างๆ หลายคนก็อาจตอบได้ทันทีว่า อันตรายแน่นอน แต่มันอันตรายมากแค่ไหน? มาลองดูตัวอย่างคร่าวๆ กันก่อนครับ

จากแหล่งข้อมูลของหน่วยงานรัฐบาลในสหรัฐ ได้ชี้วัดความอันตรายของการสูบบุหรี่ต่อสุขภาพและชีวิต โดยกล่าวถึงขั้นว่า ทุกๆ 5 การเสียชีวิต ของประชากรจากโรคที่ป้องกันได้ในสหรัฐฯ จะมี 1 การเสียชีวิตที่มีตัวการหลักคือบุหรี่ ซึ่งหากนับรวมๆ ต่อปีก็ตกประมาณ 480,000 คนเลยทีเดียว

สถิติการสูบบุหรี่ ตามเพศสภาพเป็นอย่างไร?

สถิติและพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ในผู้ใหญ่ที่ถูกจัดรวมว่าเป็นผู้สูบบุหรี่เป็นประจำ 90% จะเริ่มต้นในช่วงวัยรุ่น โดยมีความแตกต่างชัดเจนระหว่างเพศ:

  • ผู้ชาย: มีจำนวนผู้สูบมากกว่า มักเริ่มสูบเพื่อเข้าสังคม และลองผลิตภัณฑ์ยาสูบหลากหลายรูปแบบ พูดง่ายๆ ว่าเน้นตามเพื่อน จะพยายามลองแทบทุกอย่าง ตั้งแต่ม้วนยาเส้นดูด ไปจนถึงซิการ์
  • ผู้หญิง: มักเลือกสูบเฉพาะบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้า (ในปัจจุบันมักเริ่มจากพอตใช้แล้วทิ้ง) โดยมีสาเหตุหลักจากความเครียดและการควบคุมน้ำหนัก หลายคนเริ่มสูบเพื่อเข้าสังคม แต่สุดท้ายกลายเป็นความติด (Addiction) เนื่องจากสารในบุหรี่ส่งสัญญาณให้สมองรู้สึกพึงพอใจ
วิดีโอที่อธิบายการเสพย์ติดให้เข้าใจอย่างเห็นภาพ ถึงรูปแบบการให้รางวัลในสมององ

ความยากในการเลิกบุหรี่

การเลิกบุหรี่เป็นเรื่องยาก โดย 85% ของผู้สูบบุหรี่มักกลับมาสูบภายใน 1 ปี แม้แต่การเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าก็ยังถือเป็นการบริโภคนิโคติน ซึ่งไม่ได้ห่างจากพิษของบุหรี่และนิโคตินอย่างถาวร นักวิทยาศาสตร์เปรียบเทียบการเลิกบุหรี่กับการเลิกโคเคนหรือเฮโรอีน เนื่องจากนิโคตินในยาสูบเป็นสารอันตรายที่เปลี่ยนแปลงกิจกรรมของสมอง ทำให้เกิดความต้องการนิโคตินมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบขาดไม่ได้

ความลับที่ไม่มีใครกล้าบอกของตัวร้ายอย่างนิโคติน

องค์กร Truth Initiative เคยพยายามที่จะเปิดเผยข้อมูลน่าตกใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมบุหรี่เอาไว้ ซึ่งข้อสันนิษฐานเหล่านี้ อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำไมนิโคตินถึงได้ดึงดูดเราได้มากขนาดนี้

  • การเพิ่มนิโคติน: บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการบุหรี่ดัดแปลงพืชยาสูบให้มีนิโคตินเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า!
  • การใช้แอมโมเนีย: มีการเติมแอมโมเนียเพื่อเร่งการดูดซึมนิโคติน ทำให้สารเสพติดเข้าสู่สมองได้เร็วขึ้น แทบจะทันทีทันใด ส่งผลต่อระบบการให้รางวัลในสมอง
  • สารเติมแต่งอื่นๆ: บางบริษัทเพิ่มน้ำตาลหรือสารเติมแต่งอื่นๆ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมนิโคตินได้ง่ายขึ้น

ความท้าทายในการเลิกบุหรี่: มุมมองเฉพาะของผู้หญิง

การเลิกบุหรี่เป็นความท้าทายสำหรับทุกคน แต่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงอาจเผชิญกับอุปสรรคที่มากกว่าในการเอาชนะการเสพติดนี้ หรือพูดง่ายๆ ว่า การที่คุณเป็นผู้หญิงแล้วรู้สึกว่าการเลิกบุหรี่มันยาก อาจมีข้อสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์บางประการอยู่จริงนั่นเอง

ก่อนที่เราจะเจาะลึกลงไปในรายละเอียด มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมประเด็นนี้ถึงสำคัญ

  1. ความแตกต่างทางชีววิทยา: ร่างกายของผู้หญิงตอบสนองต่อนิโคตินแตกต่างจากผู้ชาย ซึ่งอาจส่งผลต่อกระบวนการเลิกบุหรี่
  2. ปัจจัยทางสังคมและจิตวิทยา: บทบาทและความคาดหวังทางสังคมที่แตกต่างกันอาจส่งผลต่อแรงจูงใจและความสำเร็จในการเลิกบุหรี่
  3. การขาดการวิจัยเฉพาะ: งานวิจัยด้านการเลิกบุหรี่ในอดีตมักเน้นที่ผู้ชาย ทำให้อาจละเลยความต้องการเฉพาะของผู้หญิง

5 เหตุผลที่การเลิกบุหรี่อาจยากกว่าสำหรับผู้หญิง

1. ผลกระทบของฮอร์โมน

ฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงมีผลอย่างมากต่อการตอบสนองของสมองต่อนิโคติน:

  • ระดับเอสโตรเจนที่เปลี่ยนแปลงตามวงจรประจำเดือนส่งผลต่อความพึงพอใจที่ได้รับจากการสูบบุหรี่
  • นิโคตินยับยั้งการผลิตเอสโตรเจนในสมองส่วนธาลามัส ซึ่งเป็นบริเวณที่มีตัวรับนิโคตินมากที่สุด
  • การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนอาจทำให้อาการอยากบุหรี่รุนแรงขึ้นในช่วงเวลาต่างๆ ของรอบเดือน

2. ความเครียดและการจัดการอารมณ์

ผู้หญิงมักเผชิญกับความเครียดในรูปแบบที่แตกต่างและอาจมากกว่าผู้ชาย:

  • ภาระหน้าที่หลายด้าน ทั้งงาน ครอบครัว และสังคม สร้างความเครียดสะสม
  • ผู้หญิงมักใช้บุหรี่เป็นเครื่องมือจัดการความเครียดและควบคุมอารมณ์
  • สังคมคาดหวังให้ผู้หญิง “ปั้นหน้านิ่ง” และอดทน ซึ่งอาจนำไปสู่การพึ่งพาบุหรี่เพื่อผ่อนคลาย

3. ความกังวลเรื่องน้ำหนักตัว

การควบคุมน้ำหนักเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงเริ่มและยังคงสูบบุหรี่:

  • นิโคตินช่วยลดความอยากอาหารและเร่งการเผาผลาญ
  • ความกลัวว่าจะน้ำหนักเพิ่มหลังเลิกบุหรี่เป็นอุปสรรคสำคัญ
  • ผู้หญิงมักรู้สึกกดดันจากมาตรฐานความงามของสังคมมากกว่าผู้ชาย

4. อาการถอนยาที่รุนแรงกว่า

ผู้หญิงอาจประสบกับอาการถอนนิโคตินที่รุนแรงกว่าผู้ชาย:

  • อาการทางกายภาพ เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว นอนไม่หลับ อาจรุนแรงกว่า
  • อาการทางอารมณ์ เช่น หงุดหงิด ซึมเศร้า วิตกกังวล มักพบได้บ่อยและรุนแรงกว่า
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจทำให้อาการถอนยาแปรปรวนตามรอบเดือน

5. ปัจจัยทางสังคมและจิตวิทยา

ผู้หญิงอาจเผชิญกับความท้าทายทางสังคมและจิตวิทยาที่แตกต่าง:

  • การสูบบุหรี่อาจถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์และไลฟ์สไตล์
  • แรงกดดันทางสังคมที่มองว่าผู้หญิงสูบบุหรี่เป็นเรื่อง “ไม่เหมาะสม” อาจทำให้เกิดความเครียดเพิ่มขึ้น
  • ผู้หญิงอาจรู้สึกว่าการเลิกบุหรี่เป็นการ “สูญเสีย” วิธีจัดการความเครียดที่คุ้นเคย

การเข้าใจความท้าทายเฉพาะเหล่านี้เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาวิธีการช่วยเลิกบุหรี่ที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้หญิง การสนับสนุนทางจิตใจ การให้คำปรึกษาที่เหมาะสม และการใช้วิธีการทดแทนนิโคตินที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของผู้หญิงอาจช่วยเพิ่มโอกาสในการเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

สั่งซื้อง่ายกว่า! บน Line คลิก